การจัดไฟแนนซ์

การ “จัดไฟแนนซ์” เรียก เป็นภาษาทางการ ได้อีกอย่างหนึ่งว่า “การเช่าซื้อ”  เป็นหนึ่งในวิธีการขอสินเชื่อ ซึ่งในที่นี้ขอเอ่ยถึงแค่เพียงการจัดไฟแนนซ์ของรถยนต์เท่านั้น

ในปัจจุบันนี้มีบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการเช่าซื้อรถยนต์เกิดขึ้น มากมาย ไม่ว่าจะเป็นธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ หรือสถาบันการเงินเอกชนต่าง ๆ

ทั้งนี้อาจมีหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขที่พิจารณาเพื่ออนุมัติแตกต่างกันไป

การจัดไฟแนนซ์เช่าซื้อรถยนต์มีอยู่ 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

1. การเช่าซื้อรถยนต์ใหม่จากตัวแทนจำหน่ายโดยตรง เช่น Toyota Leasing , Honda Leasing, Isuzu Leasing , Nissan Leasing  ฯลฯ เป็นต้น

2. การเช่าซื้อรถยนต์ใช้แล้ว หรือที่เรียกว่ารถมือสอง

สำหรับการซื้อรถยนต์ใหม่แต่ละยี่ห้อ ในแต่ละยี่ห้อนั้นก็จะมีหลายตัวแทนจำหน่าย การจัดไฟแนนซ์ ตัวแทนจำหน่าย

จะเป็นผู้จัดหาสถาบันการเงินมาเพื่อบริการให้กับลูกค้าอยู่แล้ว

ถ้าเป็นการซื้อรถมือสอง สามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณี

1. ซื้อรถใช้แล้วหรือรถมือสองผ่านแหล่งขายรถมือ 2 โดยตรง เช่น เต้นท์รถ,  ห้างขายรถมือสองของตัวแทนจำหน่ายรถใหม่ ในกรณีนี้ทางผู้ขายมักจะมีสถาบันการเงินไว้คอยบริการจัดไฟแนนซ์ แล้วเช่นกัน

2. ซื้อรถใช้แล้วหรือรถมือสอง จากบุคคลอื่น เช่น

* ซื้อจากเครือญาติ หรือ เพื่อน หรือ คนรู้จัก

* ซื้อจากเวปไซด์ ลงประกาศขายรถ ทั่วไป

* ซื้อจากเวปไซด์ ลงประกาศขายรถ ทั่วไป

* ซื้อจาก พ่อค้าตั้งกล่องขาย หรือ เจ้าของตั้งกล่องขาย

การขายในข้อ 2. นี้ผู้ซื้ออาจจะต้องติดต่อกับสถาบันการเงินหรือที่รับจัดไฟแนนซ์เอง หรืออาจจะขอให้ทางเต๊นท์ที่ขายรถยนต์ทั่วไปจัดการจัดไฟแนนซ์ให้ ซึ่งก็อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อความสะดวกนั่นเอง

ขั้นตอนในการจัดไฟแนนซ์รถยนต์

คุณต้องติดต่อ ผู้ขายรถยนต์และสถานที่รับจัดไฟแนนซ์ ทางบริษัทที่รับจัดไฟแนนซ์ จะมีเจ้าหน้าที่การตลาดเป็นผู้ดำเนินเอกสารและจัดการเซ็นสัญญา กับผู้เช่าซื้อ

และรวบรวมเอกสารทั้งหมดจัดส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเครดิต หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เช็กเกอร์ (ฝ่ายตรวจสอบ) เช็กเกอร์มีหน้าตรวจสอบข้อเท็จจริงของเอกสารและหลักฐานที่ยื่นขอสินเชื่อ

ว่าตรงตามเป็นจริงหรือไม่ รวมถึงสถานที่ที่เกี่ยวข้อง เช่น ที่พักอาศัย สถานที่ทำงาน หรือ หน้าร้านและนำเรื่องส่งให้ฝ่ายตรวจสอบเครดิตพิจารณาอนุมัติ เมื่อผลการพิจารณาว่าเครดิตผ่านแล้ว

ทางสถาบันการเงินก็จะแจ้งผลอนุมัติให้ผู้ซื้อ สามารถเช่าซื้อรถยนต์ได้ ซึ่งขั้นตอนต่าง ๆ เหล่านี้ใช้เวลาประมาณไม่เกิน 7 วัน (ช้าเร็วขึ้นอยู่กับความเป็นจริง และความพร้อมของเอกสาร)

เอกสารที่จำเป็นต้องใช้ในการเช่าซื้อ

* บัตรประจำตัวประชาชน
* สำเนาทะเบียนบ้านของผู้เช่าซื้อ
* เอกสารจากผู้ค้ำประกัน หนังสือค้ำประกัน
* เอกสารแสดงที่มาของรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงิน สำเนาสมุดบัญชีย้อนหลัง 3-6 เดือนแล้วแต่เงื่อนไขของแต่ละสถาบันเป็นต้น

* ทั้งนี้หามีการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญเช่น ชื่อ-สกุล หรือคำนำหน้า ก็ต้องมีเอกสารประกอบด้วย เช่น ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุลเป็นต้น